5 ปัญหากวนใจ Dev ที่แก้ได้ง่าย ๆ ถ้ารู้ DevOps
Rungsipohn Sripen
23 September 2025
DevOps

เคยเจอสถานการณ์พวกนี้ไหม
- เขียนโค้ดเสร็จ เทสในเครื่องตัวเองผ่านหมด แต่พอเอาขึ้น Server ดันพัง 🫠
- อยาก Deploy ฟีเจอร์ใหม่ แต่ต้องรอการอนุมัติเป็นชาติ… รอจนเหนื่อยใจ
ปัญหาพวกนี้เจอได้บ่อยมาก โดยเฉพาะกับ Junior หรือ Mid-Level Dev
วันนี้เราจะมาตีแผ่ 5 ปัญหายอดนิยม ซึ่งเป็นปัญหาที่แค่รู้ DevOps ก็สบายขึ้นเป็นกอง 🚀
1. Code รันได้ในเครื่องตัวเอง แต่รันบน Server แล้วมีปัญหา
“แต่ตอนทดสอบบนเครื่อง มันรันได้นะ” คือประโยคในตำนาน 😅
เพราะ Environment ในเครื่องของ Dev กับ Server ไม่เหมือนกัน
อาจเกิดจาก Library ไม่ตรง, Config หาย หรือ Version ต่างกัน
👉 ถ้ารู้ DevOps เราสามารถใช้ Container (Docker) หรือ Infrastructure as Code (IaC) มาช่วย ทำให้ Environment ทุกที่เหมือนกัน 100%
ไม่ต้องกลัวว่าโค้ดที่ทดสอบแล้วว่าทำงานได้ถูกต้องบนเครื่องตัวเองจะสร้างปัญหาเวลาเอาขึ้น Server 😍
2. Deploy นาน ต้องรอ Ops (Operations) Team
เคยอยากปล่อย Feature ใหม่ แต่ต้องส่ง Ticket ไปให้ Ops แล้วรอเป็นวัน ๆ หรือเป็นอาทิตย์ไหม 😩
ขนาด Dev เองยังเหนื่อยที่จะรอ User เองก็เหมือนกัน
แทนที่เราจะได้ปล่อย Feature ไว ๆ กลายเป็นติดที่กระบวนการนี้
👉 DevOps ช่วยแก้ปัญหานี้ด้วย CI/CD Pipeline ที่จะเข้ามาช่วย Automate การ Build, Test, Deploy
แปลว่าอะไร? 🤔
แปลว่าแค่ Push โค้ด ระบบก็จัดการให้เสร็จสรรพ ขึ้น Production อัตโนมัติในไม่กี่นาที 🎉
3. ไม่มี Automation เลยต้องทำงานซ้ำ ๆ
Dev หลายคนต้องมานั่ง Run Script เดิม ๆ เช่น Migrate DB, Restart Server, Backup Log
พอทำบ่อย ๆ ก็มีพลาดได้ ในเมื่อคนไม่ใช่หุ่นยนต์นี่นา 🤖
👉 DevOps เอา Automation Tools มาช่วย เช่น Ansible, Jenkins, GitHub Actions
เครื่องมือเหล่านี้ช่วยเราได้ยังไง? 🤔
คำตอบคือช่วยได้ตรงที่สิ่งที่เคยต้องลงมือทำด้วยตัวเอง ต้องกด ต้องพิมพ์หลายครั้ง จะเหลือแค่กดปุ่มเดียวจบ ช่วยลดภาระงาน และลด Human Error
4. Debug ยาก เพราะไม่มี Monitoring/Logging
เวลาระบบพัง Dev ต้องไปไล่ Log ที่กระจายอยู่หลายที่ ไม่มี Monitoring แบบ Real-Time
กว่าจะเจอต้นตอว่าปัญหาเกิดจากอะไร User ก็เซ็ง โพสบ่นเรื่องการทำงานของ App เราไปเรียบร้อยแล้ว 🥲
ใครนึกไม่ออก ลองนึกถึงวันที่ App ธนาคารล่มก็ได้ 😅 รับรองไม่ถึงห้านาทีรู้ทั่วบ้านทั่วเมือง 😳
👉 DevOps มี Centralized Logging และ Monitoring Tools เช่น ELK Stack, Prometheus, Grafana
ช่วยให้เห็นภาพรวมชัดเจนว่า Server ทำงานหนักตรงไหน เกิด Error ตรงไหน ทำให้แก้ได้ไว ไม่ต้องเดาสุ่มหรือไล่เช็กนาน
5. ทีมสื่อสารไม่เข้าใจ เพราะ Dev กับ Ops ไม่คุยกัน
Dev อยากปล่อยฟีเจอร์เร็ว แต่ Ops บอกว่า “ใจเย็น ๆ เดี๋ยว Production พัง ขอตรวจก่อน”
สุดท้ายกลายเป็นมีปัญหาในการสื่อสารระหว่างทีม
👉 DevOps จะเข้ามาช่วย เน้น Culture การทำงานร่วมกัน ทำให้ Dev กับ Ops คุยกันด้วยเครื่องมือเดียวกัน เห็น Pipeline หรือ Process เหมือนกัน ลดความขัดแย้ง เพิ่ม Teamwork ทำให้สองทีมทำงานร่วมกันและสื่อสารกันดีขึ้น
สรุป
- DevOps ช่วยแก้ปัญหากวนใจที่ Dev ส่วนใหญ่เจอได้
- ช่วยให้โค้ดเหมือนกันในทุกที่ ไม่ว่าจะรันบนเครื่องเราเองหรือ Server
- ช่วยให้ไม่ต้องรอเวลา Deploy เพราะมี CI/CD ช่วยจัดการ
- ช่วยให้ไม่ต้องทำงานซ้ำ มี Automation มาช่วยทำแทน
- Debug ง่ายขึ้นด้วย Monitoring และ Logging
- ทำให้ Dev และ Ops ทำงานด้วยกันได้ดีขึ้น
- ใครที่อ่านแล้วรู้สึกว่า “เฮ้ย! ปัญหานี้ฉันเจออยู่ทุกวัน” นี่คือสัญญาณว่า DevOps จะเข้ามาช่วยให้คุณทำงานง่ายขึ้น 🥳
- ถ้าคุณเข้าใจ Mindset และ Tools ของ DevOps คุณจะไม่ใช่ Dev ที่ “เขียนโค้ดเสร็จแล้วจบ” แต่เป็น Dev ที่ส่งมอบงานได้จริงแบบโปร 🦆
- อ่านมาถึงตรงนี้ ถ้าสนใจอยากอัปสกิล 👉 คลิกเลย
ต้องการพัฒนาทักษะด้าน DevOps เพิ่มเติมไหม?
ลงทะเบียนเรียนกับ TechUp เพื่อพัฒนาทักษะและเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม สร้างโอกาสความก้าวหน้าในอาชีพของคุณ
บทความที่น่าสนใจ
ดูทั้งหมด